1 ต.ค. นี้ Gemini เตรียมพลิกโฉม Google Home โอกาสทางการตลาดที่นักธุรกิจต้องจับตา

เนื้อหาสำคัญ

วันที่ 1 ตุลาคม 2025 Google ประกาศเตรียมนำ Gemini AI มาแทนที่ Google Assistant บนอุปกรณ์ตระกูล Google Home และ Nest ทั้งหมด แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Gemini จะพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์เหล่านี้ตั้งแต่วันแรกของการเปิดตัวหรือไม่ แต่ก็ไม่มีอะไรแน่นอน การเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญทั้งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการประสบการณ์สมาร์ทโฮมที่ฉลาดขึ้น และผู้ประกอบการที่ไม่อยากพลาดโอกาสสำคัญ หากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดสมาร์ทโฮมทั่วโลก

ตลาดสมาร์ทโฮมทั่วโลกกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 313.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 และประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโต แม้รายได้ตลาดรวมจะยังไม่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลับมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) มากสุดในภูมิภาค การที่ Google เลือกใช้ Gemini ซึ่งเป็น AI ที่ทรงพลังกว่า Google Assistant เดิมหลายเท่า จะทำให้การใช้งานสมาร์ทโฮมง่ายขึ้น เป็นธรรมชาติ และที่สำคัญคือเปิดช่องทางใหม่ ๆ ให้ธุรกิจเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

Google Home คืออะไร

Google Home คืออุปกรณ์บ้านอัจฉริยะที่พัฒนาโดย Google ทำงานร่วมกับผู้ช่วยเสียงเพื่อให้ผู้ใช้ควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในบ้านได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิด – ปิดไฟ เล่นเพลง ตั้งปลุก ค้นหาข้อมูล หรือสั่งงานอุปกรณ์ IoT อื่น ๆ ภายในบ้าน ผ่านคำสั่งเสียงเพียงไม่กี่คำพูด อุปกรณ์นี้เชื่อมโยงกับระบบ Google Assistant และปัจจุบันกำลังจะก้าวสู่ยุคใหม่ด้วย Google Gemini ที่จะเข้ามาแทนที่ ช่วยให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยกระดับบ้านอัจฉริยะให้ชาญฉลาดกว่าเดิม

 

สิ่งที่คาดหวังจาก Google Home เมื่อขับเคลื่อนด้วย Gemini

Gemini บน Google Home ถูกคาดหวังว่าจะยกระดับประสบการณ์สมาร์ทโฮมให้ฉลาด และเป็นธรรมชาติกว่าเดิม อุปกรณ์ใหม่อย่าง Nest Cams, กริ่งประตูอัจฉริยะ และลำโพงรุ่นล่าสุด อาจเปิดตัวพร้อมการมาของ Gemini ผู้ใช้จะสามารถสั่งงานที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนพร้อมกันได้โดยไม่ต้องพูดซ้ำ ฟีเจอร์ Gemini Live บนอุปกรณ์ Nest Hub จะทำให้การสนทนากับ AI เป็นไปอย่างลื่นไหลราวกับคุยกับคนจริง

 

สิ่งที่น่าตื่นเต้นและการประยุกต์ใช้ทางธุรกิจ

  1. การสนทนาแบบธรรมชาติและต่อเนื่อง: Google Gemini ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับอุปกรณ์ได้เหมือนสนทนากับคนจริง ๆ ไม่ต้องคอยสั่งทีละประโยค แต่สามารถพูดต่อเนื่อง และอ้างอิงเรื่องก่อนหน้าได้ นักธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้ในการพัฒนาบริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
  2. การวิเคราะห์และเข้าใจความต้องการแบบ Real-time: Gemini สามารถวิเคราะห์สิ่งที่ลูกค้าพูดและแสดงความต้องการได้ทันที ทำให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้า บริการ หรือโปรโมชั่นที่ตรงใจได้ในขณะที่กำลังสนทนากันอยู่
  3. การวิเคราะห์ภาพจากกล้องอัจฉริยะ: Gemini สามารถวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดและให้ข้อมูลเชิงลึกได้ เช่น แจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุมาส่ง หรือเมื่อสัตว์เลี้ยงออกนอกบ้าน สำหรับธุรกิจรักษาความปลอดภัยหรือธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยง นี่คือโอกาสในการพัฒนาบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
  4. การเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Google: Gemini สามารถดึงข้อมูลจากบริการอื่นๆ ของ Google เช่น Maps หรือ Calendar เพื่อเสนอสินค้าได้ถูกที่ถูกเวลา เช่น การแนะนำดีลร้านอาหารเมื่อผู้ใช้อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

 

โอกาสทางการตลาดที่นักธุรกิจไทยควรจับตา

  1. การตลาดเชิงบทสนทนา (Conversational Marketing)
    ธุรกิจสามารถใช้ Gemini สร้างบทสนทนาโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์และเป็นธรรมชาติ เพื่อให้คำแนะนำเฉพาะบุคคล ตอบคำถามที่ซับซ้อน และนำเสนอสินค้าได้อย่างแม่นยำ สิ่งนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์และเปลี่ยนจากการขายแบบยัดเยียดเป็นการให้คำปรึกษาที่ลูกค้าไว้วางใจ
  2. การสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ
    Google กำลังเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศสมาร์ทโฮม ธุรกิจไทยควรเริ่มวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่สามารถเชื่อมต่อกับ Gemini ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ IoT แอปพลิเคชัน หรือบริการต่าง ๆ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการควบคุมผ่าน Gemini เช่น โคมไฟอัจฉริยะ ม่านไฟฟ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ปรับระดับอัตโนมัติ การเข้าสู่ตลาดนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
  3. การโฆษณาแบบบูรณาการ
    Google ได้เปิดเผยแผนการผสานรวมโฆษณาเข้ากับระบบ Gemini for Home อย่างลงตัว นักการตลาดควรเตรียมพร้อมสำหรับรูปแบบโฆษณาใหม่ที่เน้นการสนทนา และการให้คุณค่ามากกว่าการขายตรง ๆ โฆษณาในอนาคตอาจมาในรูปแบบของคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เช่น เมื่อผู้ใช้ถามเกี่ยวกับการทำอาหาร Gemini อาจแนะนำผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมชาติ
  4. การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรม
    ด้วยการใช้งาน Gemini ที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจจะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดได้แม่นยำมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่ผู้คนให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  5. การพัฒนาทักษะและบุคลากร
    การเปลี่ยนแปลงสู่ยุค AI-powered smart home ต้องการบุคลากรที่มีทักษะใหม่ ๆ ธุรกิจควรเริ่มลงทุนในการพัฒนาทีมงานให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับ AI, IoT และการตลาดดิจิทัล การจ้างผู้เชี่ยวชาญ หรือการฝึกอบรมพนักงานจะกลายเป็นทรัพยากรที่สำคัญ และสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจในระยะยาว

 

กรณีศึกษาและตัวอย่างการประยุกต์ใช้

กรณีที่ 1: ธุรกิจโรงแรมและที่พัก
โรงแรมสามารถใช้ Gemini for Home สร้างประสบการณ์การเข้าพัก แขกสามารถควบคุมทุกอย่างในห้องด้วยเสียง ตั้งแต่การปรับแสงไฟ อุณหภูมิ ไปจนถึงการสั่งรูมเซอร์วิส ระบบยังสามารถจดจำความชอบของแขกประจำ และปรับการตั้งค่าต่าง ๆ โดยอัตโนมัติเมื่อแขกเช็คอิน

กรณีที่ 2: ธุรกิจค้าปลีก
ห้างสรรพสินค้าสามารถติดตั้งระบบ Gemini ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยลูกค้าค้นหาสินค้า แนะนำโปรโมชั่น หรือแม้แต่ช่วยจองคิวร้านอาหาร ระบบสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ และแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

กรณีที่ 3: ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างคอนโดมิเนียมอัจฉริยะที่มี Gemini เป็นระบบควบคุมกลาง ผู้อยู่อาศัยสามารถจองสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง เรียกรถ แจ้งซ่อม หรือติดต่อนิติบุคคลได้ด้วยเสียง นี่จะเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่

 

บทสรุป: ก้าวสู่อนาคตด้วยความพร้อม

จุดเปลี่ยนสำคัญในโลกสมาร์ทโฮม ด้วยความสามารถในการประมวลผลขั้นสูง และการสนทนาแบบต่อเนื่อง Gemini จะทำให้บ้านอัจฉริยะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดโอกาสด้านธุรกิจและการตลาดใหม่ ๆ ทั้งในภาคผู้ผลิตอุปกรณ์ สมาร์ทโฮม และภาคการตลาดทั่วไป ธุรกิจที่รู้จักปรับตัวใช้ประโยชน์จาก Gemini จะสามารถขยายขอบเขตการให้บริการ และเข้าถึงลูกค้ายุค AI ได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นเรื่องที่นักธุรกิจทุกคนควรจับตา และเตรียมแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

ที่ Bizsoft เราเชื่อว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือพลังในการยกระดับการตลาดออนไลน์ เรานำ AI มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก วางกลยุทธ์ SEO และออกแบบประสบการณ์ดิจิทัลที่ทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มการมองเห็นบน Google สร้างแบรนด์ให้แข็งแรง หรือขยายฐานลูกค้า สร้างสรรค์เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจ Bizsoft พร้อมเป็นทีมที่เดินไปกับคุณทุกก้าวในโลกดิจิทัล ติดต่อเราได้เลยวันนี้!

คำถามที่พบบ่อย

คาดว่าใช้งานได้บน Google Home, Nest Hub, Nest Audio, Nest Cams และกริ่งประตูอัจฉริยะ รุ่นใหม่ ๆ

Gemini เป็น AI รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดจาก Google Assistant ทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติมากขึ้น เข้าใจคำสั่งหลายขั้นตอนพร้อมกัน และสามารถปรับตัวให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้ใช้งาน ทำให้การควบคุมสมาร์ทโฮมสะดวกและตอบสนองได้แม่นยำกว่าเดิม

ฟีเจอร์หลัก ๆ ที่คนนิยมใช้ เช่น ควบคุมไฟ ตั้งนาฬิกา ยังอยู่ครบ แต่อาจมีฟังก์ชันเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนใช้ถูกตัดออกไป

Google ตั้งใจให้ Google Home กลายเป็นผู้ช่วย AI ส่วนตัว ที่ทำได้ทั้งค้นหา วางแผน จัดการชีวิต และเชื่อมต่อธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้การตลาดเข้าสู่บ้านผู้ใช้โดยตรง

Picture of Sudarat Boontod
Sudarat Boontod

บทความที่เกี่ยวข้อง