AI Mode Google Search ประสบการณ์ค้นหาใหม่ ที่ธุรกิจต้องเข้าใจเพื่อการตลาดออนไลน์

เนื้อหาสำคัญ

AI Mode Google Search คือหนึ่งในฟีเจอร์ที่กำลังเขย่าวงการการค้นหา บนโลกออนไลน์อย่างเงียบ ๆ แต่ทรงพลังที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะกับ Google Search ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการให้ข้อมูลแบบ “รู้ใจ” ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของธุรกิจ นักการตลาด และผู้สร้างคอนเทนต์ออนไลน์ ต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน เพราะพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไป อาจส่งผลต่อการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณโดยตรง ถึงเวลาแล้วที่ต้องมองการค้นหาแบบเดิมในมุมใหม่ และเปลี่ยนกลยุทธ์ SEO ให้สอดรับกับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มตัว

 

AI Mode คืออะไร? ทำความรู้จักกับยุคใหม่ของ Google Search

ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

  • การค้นหาแบบดั้งเดิม: คุณต้องการหาสูตร “ข้าวมันไก่” คุณพิมพ์ลงใน Google สิ่งที่คุณได้คือ รายชื่อเว็บไซต์มากมาย คุณต้องคลิกเข้าไปทีละลิงก์ เปรียบเทียบส่วนผสมและขั้นตอนเองเพื่อหาสูตรที่ดีที่สุด
  • การค้นหาด้วย AI Mode: คุณพิมพ์คำถามเดิมลงไป แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรก คือกรอบข้อมูลที่สร้างโดย AI ซึ่งสรุปส่วนผสมหลัก ขั้นตอนการทำตั้งแต่การหุงข้าวไปจนถึงการต้มไก่ พร้อมเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ในที่เดียว โดยด้านล่างอาจมีลิงก์อ้างอิงไปยังเว็บไซต์ต้นทางที่ AI ดึงข้อมูลมาประกอบกัน

ซึ่งนี่คือหัวใจของ AI Mode หรือ AI Overviews มันคือการใช้ Generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ได้ มาทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง แล้วนำเสนอเป็น “บทสรุป” ที่กระชับ และตรงกับคำถามของผู้ค้นหามากที่สุด โดยจะแสดงผลในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด บนหน้าผลการค้นหา (SERP) หรือที่เรียกกันว่า “Position Zero”

 

การทำงานเบื้องหลังของ AI Mode Google Search

1. ทำความเข้าใจความต้องการ

AI ของ Google จะวิเคราะห์คำค้นหาของผู้ใช้มากกว่าเดิม เพื่อทำความเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วผู้ใช้ต้องการอะไร ไม่ใช่แค่จับคู่คีย์เวิร์ด

2. รวบรวมข้อมูล

AI จะสแกนและดึงข้อมูลจากหน้าเว็บที่ติดอันดับ และมีความน่าเชื่อถือสูงในหัวข้อนั้น ๆ

3. วิเคราะห์และสรุปผล

AI จะนำข้อมูลจากหลายแหล่งมาย่อย สรุป และเรียบเรียงใหม่ให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย สร้างเป็นคำตอบที่สมบูรณ์ในตัวเอง

4. แสดงผลพร้อมแหล่งอ้างอิง

ในบทสรุปของ AI จะมีการอ้างอิงไปยังเว็บไซต์ต้นทาง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคลิกเข้าไปอ่านข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้หากต้องการ

 

ทำไม AI Mode  ถึงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่นักการตลาดต้องจับตา?

สำหรับนักการตลาด การมาถึงของ AI Mode ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีใหม่ แต่มันสั่นสะเทือนรากฐานของการทำตลาดบน Search Engine อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผลกระทบที่สำคัญมีดังนี้

1. การเปลี่ยนแปลงของ “การเดินทางของผู้ใช้งาน”

เส้นทางการตัดสินใจของผู้บริโภค กำลังจะสั้นลงอย่างมาก จากเดิมที่ต้องผ่านขั้นตอน Awareness (รับรู้) -> Consideration (พิจารณา) -> Decision (ตัดสินใจ) โดยมีการคลิก เข้า-ออก หลายเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบข้อมูล AI Mode อาจรวบขั้นตอนเหล่านี้ไว้ในที่เดียว ผู้ใช้อาจได้รับข้อมูลเปรียบเทียบสินค้า “สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในงบ 15,000 บาท” พร้อมบทสรุปข้อดี-ข้อเสียจาก AI โดยไม่ต้องคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์รีวิวแม้แต่เว็บเดียว

2. ความท้าทายจาก “Zero-Click Searches” ที่เพิ่มขึ้น

นี่คือความกังวลที่ใหญ่ที่สุด “Zero-Click Search” คือสถานการณ์ที่ผู้ใช้ได้คำตอบที่พอใจจากหน้าผลการค้นหาของ Google โดยตรง (ไม่ว่าจะเป็นจาก AI Overviews, Featured Snippets หรือ Knowledge Panels) และไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ใดๆ อีก

เมื่อ AI Mode สามารถตอบคำถามส่วนใหญ่ได้ตั้งแต่ต้นทาง ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิก (Organic Traffic) ซึ่งเคยเป็นหัวใจสำคัญของการทำ SEO อาจลดลง หากเว็บไซต์ของคุณเคยติดอันดับ 1 ใน 3 แต่ AI ดึงข้อมูลจากเว็บคุณไปสรุปให้แล้วผู้ใช้ไม่คลิกเข้ามา เท่ากับว่าคุณอาจสูญเสียโอกาสในการสร้าง Conversion, การเก็บ Lead หรือการสร้างรายได้จากโฆษณาบนเว็บไซต์ของคุณ

3. โอกาสและความท้าทายใหม่บนหน้าผลการค้นหา

ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส การที่ AI ดึงข้อมูลไปแสดงในบทสรุป ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นข่าวร้ายเสมอไป แต่มันคือการแข่งขันรูปแบบใหม่

  • โอกาส: หากเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพสูง น่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีพอที่จะถูก AI เลือกไปเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ นั่นคือการสร้างการรับรู้แบรนด์ และตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในอุตสาหกรรมนั้น ๆ แม้ผู้ใช้จะไม่คลิก แต่การได้เห็นชื่อแบรนด์ หรือเว็บไซต์ของคุณปรากฏในกรอบคำตอบของ AI ก็เปรียบเสมือนการได้รับการรับรองจาก Google โดยตรง
  • ความท้าทาย: การแข่งขันเพื่อ “ถูก AI เลือก” จะดุเดือดยิ่งขึ้น เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิวเผิน ซ้ำซาก หรือขาดความน่าเชื่อถือ จะถูกลดความสำคัญลงไปทันที การทำ SEO แบบเก่าที่เน้นการใช้คีย์เวิร์ดจำนวนมาก หรือการสร้าง Backlink ที่ไม่มีคุณภาพจะใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป

 

ธุรกิจจะปรับตัวอย่างไร? กลยุทธ์การตลาดในยุค AI Mode

เมื่อสนามรบเปลี่ยนไป อาวุธและกลยุทธ์ก็ต้องเปลี่ยนตาม นี่คือแนวทางการปรับตัวที่ธุรกิจ และนักการตลาดออนไลน์ควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้อยู่รอด และเติบโตในยุคของ AI Mode

1. สร้างคอนเทนต์ที่ตอบคำถามได้ตรงจุด

AI Mode ให้ความสำคัญกับความเข้าใจเจตนาของผู้ค้นหา (Search Intent) มากกว่าการนับจำนวนคีย์เวิร์ด ดังนั้น ธุรกิจควรเขียนคอนเทนต์ที่ให้คำตอบชัดเจน เจาะลึก ใช้ภาษาธรรมชาติ เหมือนอธิบายกับคนอ่าน ไม่ใช่เขียนให้บอทอ่าน ตั้งคำถามที่ผู้ใช้อาจสนใจ แล้วตอบไว้ในบทความ

2. ปรับกลยุทธ์ SEO จากเชิงเทคนิคไปสู่เชิงเนื้อหา

การทำ SEO ในยุค AI Mode ต้องเน้นเรื่อง E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) มากขึ้น เป็นหลักการที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพของหน้าเว็บ และจะยิ่งทวีความสำคัญขึ้นในยุค AI เพราะมันคือมาตรวัด “ความน่าเชื่อถือ” ที่ AI จะใช้ตัดสินใจว่าจะดึงข้อมูลจากเว็บคุณหรือไม่

3. ใช้ Structured Data และSchema Markup

การใส่ Schema Markup จะช่วยให้ระบบ AI ของ Google เข้าใจโครงสร้าง และบริบทของเว็บไซต์คุณได้ง่ายขึ้น เช่น บทความรีวิว, สินค้า, คำถามที่พบบ่อย (FAQ) สิ่งเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะถูกดึงไปแสดงใน AI Summary

4. สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ

AI มีแนวโน้มเลือกแหล่งข้อมูลจากแบรนด์หรือเว็บไซต์ที่ได้รับการอ้างอิงบ่อย และมีชื่อเสียงในเรื่องนั้น ๆ ดังนั้นธุรกิจควรลงทุนในการสร้างแบรนด์ที่คนเชื่อถือ ไม่ว่าจะผ่านคอนเทนต์ใน YouTube, Podcast, โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์รีวิว

5. อย่าทิ้งการทำ SEO แบบดั้งเดิม

สุดท้ายนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า AI Overviews ไม่ได้มาทดแทนระบบการจัดอันดับแบบเดิมทั้งหมด แต่มันถูกสร้างขึ้น “บน” ระบบเดิม หมายความว่า หลักการพื้นฐานของ SEO ยังคงสำคัญอย่างยิ่ง เว็บไซต์ของคุณยังต้องมี Technical SEO ที่ดี มี On-Page SEO ที่สมบูรณ์  และมี Off-Page SEO ที่แข็งแกร่ง เพราะสิ่งเหล่านี้คือปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้ Google “มองเห็น” และ “เชื่อถือ” เว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะพิจารณานำข้อมูลไปใช้ใน AI Mode ด้วยซ้ำ

 

บทสรุป มองไปข้างหน้ากับอนาคตของการค้นหา

การมาถึงของ AI Mode ใน Google Search คือจุดเปลี่ยนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ มันคือการปรับตัวของ Search Engine เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจที่ยังคงยึดติดกับกลยุทธ์การตลาดแบบเดิม ๆ อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงลูกค้า และอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง อย่ารอให้คู่แข่งปรับตัวก่อนคุณ ถึงเวลาเปลี่ยนแนวคิดจาก “ทำให้เจอ” เป็น “ทำให้ตอบโจทย์” เพราะนั่นคือหัวใจของการอยู่รอดในยุคของ AI Mode

ต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลกลยุทธ์ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณเติบโต และได้เปรียบคู่แข่งในยุคใหม่นี้ หรือสนใจบริการ SEO ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง สามารถติดต่อ Bizsoft ได้เลยวันนี้! เพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ และวางแผนกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

คำถามที่พบบ่อย

ไม่เสมอไป AI Overviews จะปรากฏขึ้นมาสำหรับคำค้นหาที่มีความซับซ้อน หรือเมื่อ AI ประเมินแล้วว่าสามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบสรุปได้ดีกว่า ส่วนการค้นหาแบบง่าย ๆ หรือการค้นหาที่ต้องการเข้าไปยังเว็บไซต์โดยตรง (เช่น ค้นหาชื่อแบรนด์) อาจยังแสดงผลแบบเดิม

AI จะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ Google จัดว่ามีคุณภาพ และติดอันดับสูงในหัวข้อนั้น ๆ โดยในคำตอบของ AI จะมีการแสดงแหล่งที่มา เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคลิกเข้าไปตรวจสอบข้อมูลต้นทางได้ ซึ่งช่วยสร้างความโปร่งใสและน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

ยังคงแสดงอยู่ โฆษณายังคงเป็นส่วนสำคัญในโมเดลธุรกิจของ Google และจะถูกจัดวางในตำแหน่งที่โดดเด่นบนหน้าผลการค้นหาเช่นเดิม อาจจะอยู่เหนือ หรือใต้กล่องคำตอบของ AI ซึ่งนักการตลาดยังสามารถใช้ Google Ads เป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าได้ต่อไป

ควรเน้นสร้างคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก มีประสบการณ์ตรง หรือเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถสรุปได้ง่าย ๆ เช่น รีวิวเจาะลึก, กรณีศึกษา, บทความเปรียบเทียบเชิงเทคนิค หรือการสร้างเครื่องมือออนไลน์ให้คนเข้ามาใช้งานบนเว็บโดยตรง เพื่อสร้างคุณค่าที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้

AI Mode จะส่งผลต่อการค้นหาเชิงพื้นที่ เช่น “ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ฉัน” โดย AI อาจสรุปข้อมูลรีวิว, เวลาเปิด-ปิด, และเมนูแนะนำมาให้ทันที ดังนั้น ธุรกิจต้องดูแลข้อมูลบน Google Business Profile ให้ถูกต้อง และอัปเดตอยู่เสมอ รวมถึงการเขียนรีวิว เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ AI นำไปใช้

Picture of Bizsoft Development
Bizsoft Development

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน

Save