การสร้างเว็บไซต์ในปัจจุบันสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบเขียนโค้ดเอง หรือใช้โปรแกรมการสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป แต่ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดก็ตาม เป้าหมายสำคัญก็ยังคงเหมือนเดิม คือ สร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ใช้งาน และการค้นหาบน Google ไปพร้อมกัน แน่นอนว่าเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้นั้นก็ดี แต่ถ้าขาดการวางโครงสร้างที่สอดคล้องกับหลัก SEO (Search Engine Optimization) ของ Google ก็อาจเสียโอกาสทางธุรกิจได้เหมือนกัน
ด้วยเหตุนี้เอง Bizsoft จึงได้รวบรวม 6 เทคนิคสำคัญในการสร้างเว็บไซต์ ที่จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้งาน แต่ยังสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ Google เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับที่ดีในการค้นหา เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด นักพัฒนาเว็บไซต์ หรือผู้เริ่มต้นที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ให้ได้ผลลัพธ์จริง
เว็บไซต์คืออะไร? รู้ความหมายก่อนสร้างเว็บไซต์ (Website)
ถ้าจะให้คำจำกัดความแบบง่ายที่สุด เว็บไซต์ (Website) ก็คือ แหล่งข้อมูลดิจิทัลที่ประกอบด้วยหน้าเอกสารหลาย ๆ หน้าที่เรียกว่า เว็บเพจ (Web Page) ซึ่งเชื่อมโยงถึงกันด้วยลิงก์ (links) และสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ทั่วโลกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้โปรแกรมที่เรียกว่า เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) เช่น Google Chrome, Safari, หรือ Firefox
ทำไมการสร้างเว็บไซต์ต้องถูกใจทั้งลูกค้าและ Google?
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงค้นหาสินค้า หรือบริการผ่าน Google กันอยู่ นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องมีเว็บไซต์ เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า แต่ถ้าเว็บไซต์ของคุณไม่ติดอันดับในหน้าค้นหา โอกาสในการถูกค้นพบก็จะน้อยลงเช่นกัน ขณะเดียวกัน หากเว็บไซต์ของคุณขึ้นหน้าแรก Google แต่ใช้งานยาก โหลดช้า หรือดูไม่น่าเชื่อถือ ลูกค้าก็จะกดออกทันที ดังนั้น เว็บไซต์จึงต้องดีทั้งในสายตาลูกค้า และ Google ควบคู่กันไป
6 เทคนิคการสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย ถูกใจลูกค้า และมีโอกาสติดหน้าแรกบน Google
1. ออกแบบสวยได้ แต่ต้องใช้งานง่ายด้วย
การออกแบบที่สวยงาม ดึงดูดสายตาเป็นสิ่งแรกที่สร้างความประทับใจ แต่ต้องไม่แลกมากับการใช้งานที่ซับซ้อน ผู้ใช้ควรเข้าใจได้ทันทีว่าแต่ละส่วนคืออะไร และจะนำทางไปยังส่วนอื่น ๆ ของเว็บไซต์ได้อย่างไร ควรเน้นการออกแบบที่สะอาดตา จัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบ และมีปุ่ม หรือเมนูที่นำทางไปยังหน้าสำคัญ ๆ ได้อย่างชัดเจน
2. โครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap) ชัดเจน เข้าใจง่าย
ก่อนการสร้างเว็บไซต์ ควรสรุป และวางแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap) ให้ดีเสียก่อน จัดหมวดหมู่เนื้อหาให้เป็นระบบระเบียบ ผู้ใช้ควรหาข้อมูลที่ต้องการเจอได้ในไม่กี่คลิก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่หลงทาง และช่วยให้ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูล และเข้าใจเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการจัดอันดับโดยตรง
3. เนื้อหาดีมีประโยชน์ ตอบโจทย์ผู้ค้นหา
เขาว่ากันว่า “Content is King” ซึ่งยังคงจริงเสมอ เพราะหัวใจสำคัญของเว็บไซต์ คือเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ชม หากเขียนเนื้อหาแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย หรือไม่ตอบคำถามของผู้ค้นหา โอกาสที่ผู้ชมจะอยู่ต่อ หรือกลับมาอีกก็จะลดลง เนื้อหาที่ดีควรมีความชัดเจน ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายการใช้หัวข้อย่อย รายการแบบ Bullet List หรือภาพประกอบ จะช่วยให้ผู้อ่านแยกแยะข้อมูลได้สะดวกขึ้น เมื่อเนื้อหาถูกจัดอย่างเป็นระบบ ทั้งผู้ใช้งาน และ Google ก็จะเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้นเช่นกัน
4. รองรับการใช้งานบนมือถือ
ปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 60% เข้าชมเว็บไซต์ผ่านมือถือ ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณจึงต้องแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์ทุกชนิด หากหน้าเว็บดูยาก ต้องซูมหรือเลื่อนซ้ายขวา ผู้ใช้จะรีบปิดออกทันที และ Google ก็จะจัดอันดับต่ำกว่าคู่แข่ง ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณต้องเป็นแบบ Responsive Design ที่สามารถปรับการแสดงผลให้สวยงาม และใช้งานง่ายพอดีกับทุกขนาดหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน
5. เว็บไซต์ต้องโหลดเร็ว ไม่ให้ลูกค้ารอนาน
หากเว็บไซต์ของคุณโหลดช้ากว่า 3 วินาที มีโอกาสสูงที่ผู้ใช้งานจะกดออกทันทีโดยไม่รอ ความเร็วของเว็บไซต์ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้อย่างมาก และยังเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ SEO คุณสามารถเพิ่มความเร็วได้โดยบีบอัดรูปภาพ และใช้ระบบแคช หรือ CDN เว็บที่โหลดไวจะช่วยให้ลูกค้าอยู่บนเว็บนานขึ้น และลดอัตราการตีกลับ (Bounce Rate)
6. ปรับปรุงสำหรับ SEO เพื่อการค้นหา
- URL ที่เป็นมิตร: ตั้งชื่อ URL ให้สั้น กระชับ สื่อความหมาย และมี Keyword หลักของหน้านั้น ๆ
- Title Tags และ Meta Descriptions: เขียนชื่อเรื่อง และคำอธิบายหน้าเว็บให้น่าสนใจ และตรงกับเนื้อหา เพื่อดึงดูดให้คนคลิกเข้ามาจากหน้าผลการค้นหา
- ความปลอดภัย: ติดตั้ง SSL Certificate (HTTPS) เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Google ให้ความสำคัญ
- Internal & External Links: สร้างลิงก์เชื่อมโยงภายในไปยังหน้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และลิงก์ออกไปยังเว็บภายนอกที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
รวมเครื่องมือตรวจสอบและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น
- Google PageSpeed Insights: เครื่องมือออนไลน์ฟรีจาก Google ที่ที่ช่วยวิเคราะห์ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ โดยให้คะแนนตั้งแต่ 0-100 พร้อมให้คำแนะนำทางเทคนิคว่าควรปรับปรุงส่วนไหนบ้าง
- Google Search Console: ใช้ติดตามประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์ ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ติดอันดับคำค้นหาใด มีปัญหาการรวบรวมข้อมูลหรือไม่ และเช็คว่า Google เจอหน้าเว็บของคุณครบหรือยัง
- Google Analytics: ใช้ดูข้อมูลเชิงลึก เช่น จำนวนผู้เข้าใช้งาน หน้าใดที่ได้รับความนิยม ช่องทางการเข้าถึง และพฤติกรรมผู้ใช้ในเว็บไซต์ของคุณ
- Lighthouse: เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์แบบครบวงจร ทั้งเรื่อง Performance, Accessibility, SEO และ Best Practices
- Ahrefs Webmaster: เช็ก Backlink, ปัญหา SEO On-page, คำค้นหาที่เว็บของคุณติดอันดับ และข้อแนะนำในการปรับปรุง SEO
สรุปการสร้างเว็บไซต์ที่ดีต้องคิดให้ครบตั้งแต่วันแรก
การสร้างเว็บไซต์ต้องเริ่มต้นจากการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันแรก ทั้งในแง่ของเป้าหมายธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และการใช้งานจริงของลูกค้า เว็บไซต์ที่ดีควรตอบโจทย์ทั้งความต้องการของผู้ใช้ และเป็นมิตรกับ Google เพื่อให้มีโอกาสติดอันดับบนหน้าค้นหา และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว ทุกองค์ประกอบ เช่น การออกแบบที่ตอบสนองทุกอุปกรณ์, ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ, เนื้อหาที่มีคุณภาพ และโครงสร้าง SEO ที่ถูกต้อง ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งไปกว่านั้น เว็บไซต์ต้องสามารถวัดผล ปรับปรุง และต่อยอดได้ในอนาคต
สำหรับธุรกิจที่ต้องการรากฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง และมองหาผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยวางแผน และพัฒนาเว็บไซต์ให้ครอบคลุมทุกมิติ Bizsoft เราพร้อมเป็นคำตอบนั้นให้กับคุณ เพราะเราคือบริษัทรับทำเว็บไซต์ที่มากด้วยประสบการณ์ เป็นเอเจนซี่รับทำ SEO ที่เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์ SEO สมัยใหม่ตามหลัก E-E-A-T ของ Google อัปเดตล่าสุดปี 2025 สนใจเริ่มต้นวางแผนการสร้างเว็บไซต์ หรือขอคำปรึกษาเบื้องต้น ติดต่อทีม Bizsoft ได้เลยวันนี้!