ลงทุนเวลาทำ SEO อย่างไรให้ทันยุค AI? ฉบับคู่มือ GEO

เนื้อหาสำคัญ

Generative Engine Optimization (GEO) คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ และเนื้อหาเพื่อให้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เลือกนำไปใช้เป็นแหล่งข้อมูลในการสร้างคำตอบแบบสรุป ที่เราเห็นในเครื่องมือค้นหา เช่น Google AI Overview, Perplexity, หรือแชตบอตอย่าง Gemini อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GEO ไม่ได้หมายความว่าเราต้องโยนตำรา SEO แบบดั้งเดิมทิ้งไป ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้พื้นฐาน SEO มีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม เพราะ AI ส่วนใหญ่ยังคงใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ติดอันดับสูง ๆ และมีความน่าเชื่อถือเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างคำตอบ ดังนั้น กุญแจสู่ความสำเร็จคือการสร้างสมดุลระหว่างการรักษาอันดับในปัจจุบัน และการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้จะนำเสนอ โมเดลการจัดสรรเวลาแบบ 70:20:10 ซึ่งเป็นกรอบความคิดเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณสามารถลงทุนในงาน SEO ได้อย่างตรงเป้า สร้างรากฐานที่มั่นคง ต่อยอดสู่การเติบโต และก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่งในยุคแห่ง Generative AI Search

 

ความคุ้มค่าของการลงทุนทำ SEO

  1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ในเวลาที่ต้องการ: ลูกค้าที่ค้นหาสินค้า หรือบริการของคุณมักมีเจตนาในการซื้อ การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นคำตอบแรกที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ
  2. ลดต้นทุนการตลาดระยะยาว: เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับด้วย SEO การเข้าชมจำนวนมากที่ได้มาจะเป็น Organic Traffic ซึ่งไม่ต้องจ่ายเงินต่อคลิกเหมือนการทำโฆษณาออนไลน์ ทำให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่าย แต่ยังคงได้ลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ROI คุ้มค่ากว่าในภาพรวม
  3. สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในพื้นที่: การทำ Local SEO ช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏบนแผนที่ และผลการค้นหาเมื่อลูกค้าค้นหาร้านค้าใกล้ฉัน ทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ได้ก่อนคู่แข่งที่ไม่ได้ทำ SEO และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะมาใช้บริการที่หน้าร้าน
  4. สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือ: เว็บไซต์ที่ปรากฏบ่อยในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาจะทำให้ผู้ใช้มองว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญ และน่าไว้วางใจ เมื่อผู้บริโภคเห็นชื่อแบรนด์คุณซ้ำ ๆ จะเกิดการจดจำ และเปลี่ยนเป็นการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
  5. ช่วยส่งเสริมกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ: SEO สามารถทำงานร่วมกับกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทำ Content Marketing, Social Media Marketing หรือ Email Marketing โดย SEO จะเป็นตัวช่วยดึงคนเข้าสู่เว็บไซต์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ทำให้การลงทุนในช่องทางอื่นเกิดผลลัพธ์มากขึ้น

 

โมเดล 70:20:10 จัดสรรเวลารุกกลยุทธ์ GEO

การจะปรับตัวสู่ยุค GEO ไม่ได้หมายความว่าต้องทิ้งทุกอย่างที่เคยทำมา แต่คือการจัดลำดับความสำคัญใหม่ โมเดล 70:20:10 คือแผนที่นำทางที่จะช่วยให้คุณจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

70% ของเวลาลงทุนกับสิ่งนี้เป็นอันดับแรก

เวลาส่วนใหญ่ของคุณยังคงต้องทุ่มเทให้กับ SEO พื้นฐาน เพราะนี่คือปัจจัยที่ AI ใช้เป็นอันดับแรกในการประเมินคุณภาพเว็บไซต์ รากฐาน SEO ที่แข็งแกร่ง คือจุดเริ่มต้นของกลยุทธ์ GEO หากเว็บไซต์ของคุณไม่น่าเชื่อถือในสายตาของอัลกอริทึมได้ ก็แทบไม่มีโอกาสที่ AI จะเลือกใช้ข้อมูลของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำ ได้แก่

  • วิจัยคีย์เวิร์ดและสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง: ค้นหาคำค้นที่กลุ่มเป้าหมายใช้ และสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตอบโจทย์อย่างละเอียด ครบถ้วน และน่าเชื่อถือตามหลัก E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness)
  • On-Page SEO และ Off-Page SEO: ปรับแต่งองค์ประกอบภายในเว็บไซต์ เช่น Title Tag, Meta Description, การใช้หัวข้อ (H1, H2) ให้ชัดเจน สร้าง Backlink คุณภาพจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและ Domain Authority ให้กับเว็บไซต์
  • Technical SEO: ดูแลโครงสร้างทางเทคนิคของเว็บไซต์ให้สมบูรณ์ เช่น เพิ่มความเร็วในการโหลด (Page Speed), รองรับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly), ตรวจสอบ Robots.txt และข้อผิดพลาด 404/301 ฯลฯ เพื่อให้เครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมข้อมูลได้เต็มประสิทธิภาพ
  • Local SEO: สำหรับธุรกิจท้องถิ่น การปักหมุด และอัปเดตข้อมูลบน Google Business Profile รวมถึงการระบุที่ตั้ง และข้อมูลติดต่อบนเว็บไซต์ให้ชัดเจน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 

20% ของเวลาปรับแต่งเพื่อการบริโภคโดย AI

อีก 20% ของเวลา คือการลงมือปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ AI มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้เนื้อหาของคุณถูกเลือกไปแสดงผลใน AI Overviews หรือคำตอบที่สร้างโดย AI กิจกรรมในส่วนนี้คือการต่อยอดจากพื้นฐาน SEO ที่แข็งแกร่งในข้อแรก

  • ปรับโครงสร้างเนื้อหาให้ AI เข้าใจง่าย: สร้างเนื้อหาที่ กระชับ ชัดเจน และตรงไปตรงมา ใช้รูปแบบที่ AI ชอบ เช่น การใช้ List (รายการ), ตาราง (Table), และรูปแบบถาม-ตอบ (Q&A) เพื่อสรุปข้อมูลสำคัญให้เข้าใจได้ทันที
  • ใช้ Structured Data (Schema Markup) อย่างจริงจัง: Schema Markup เปรียบเสมือนการติดป้ายบอก AI ว่าข้อมูลส่วนนี้คืออะไร เช่น นี่คือสูตรอาหาร, นี่คือคำถามที่พบบ่อย (FAQ Page), หรือนี่คือวิธีการทำ (How To) ซึ่งช่วยให้ AI ดึงข้อมูลไปใช้งานได้อย่างแม่นยำ
  • เน้นความเป็น Fact-Based & Citation: สร้างเนื้อหาที่อิงตามข้อเท็จจริง มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเสมอ เพราะ AI ให้ความสำคัญกับความถูกต้อง และโปร่งใสในการให้ข้อมูล
  • สร้างโปรไฟล์ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ: ทำให้ AI รู้จักแบรนด์ บุคคล หรือองค์กรของคุณในฐานะ Entity ที่ชัดเจน และน่าเชื่อถือ ทำได้โดยการสร้างข้อมูลที่สอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม เช่น เว็บไซต์, Wikipedia, Google Business Profile และโซเชียลมีเดีย

 

10% ของเวลาทดลองและก้าวล้ำนำหน้า

เวลาส่วนสุดท้าย 10% คือการลงทุนเพื่ออนาคต เป็นการทดลอง และเรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ ที่อาจกลายเป็นมาตรฐานในวันข้างหน้า การแบ่งเวลาส่วนนี้ไว้จะช่วยให้คุณไม่ตกขบวน และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ

  • ทดลองกับ Search รูปแบบใหม่: ศึกษา และทดลองปรับเนื้อหาให้รองรับ Voice Search ซึ่งมักเป็นคำค้นหาในรูปแบบประโยคคำถามยาว ๆ (Long-tail keywords)
  • สร้าง Multimedia Content: ลงทุนในการสร้างวิดีโอ, Infographic หรือ Podcast ที่ให้ข้อมูลเชิงลึก เพราะเนื้อหาเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกนำไปแสดงผลใน Generative Answers มากขึ้น
  • ติดตามการเปลี่ยนแปลงของ AI Search: เฝ้าดูการอัปเดตของ Google AI Overviews, Perplexity และเครื่องมืออื่น ๆ อยู่เสมอ เพื่อวิเคราะห์ว่า AI ชอบดึงข้อมูลจากแหล่งไหน หรือชอบเนื้อหารูปแบบใดเป็นพิเศษ

 

บทสรุปและก้าวต่อไปให้ทันยุค AI

         เป้าหมายของ SEO ไม่ใช่แค่การครองอันดับบนหน้าผลการค้นหา แต่คือการปรับตัวเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี ที่ปัญญาประดิษฐ์เชื่อถือ และเลือกนำไปใช้สร้างคำตอบโดยตรง โมเดล 70:20:10 คือกรอบการทำงานเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญได้อย่างลงตัว เริ่มจากทุ่มเท 70% ของเวลาไปกับการสร้างพื้นฐาน SEO ที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านเทคนิค เนื้อหาคุณภาพตามหลัก E-E-A-T และ Backlink ที่น่าเชื่อถือ จากนั้น แบ่ง 20% มาปรับโครงสร้างเนื้อหาให้อ่านง่าย ใช้ Structured Data อย่างจริงจัง และเน้นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเพื่อเอาใจ AI และเวลาอีก 10% สำหรับการทดลองเทรนด์ใหม่ ๆ เพื่อก้าวนำหน้าคู่แข่งเสมอ การลงมือทำ และปรับตัวตั้งแต่วันนี้ คือการสร้างอำนาจ และความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ของคุณอย่างยั่งยืนในสมรภูมิการค้นหายุคใหม่

            ที่ Bizsoft เรามองว่านี่คือโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า เราจึงเชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์ SEO และคอนเทนต์ที่ออกแบบมาเพื่อให้แบรนด์ของคุณเป็นแหล่งข้อมูลที่ AI เชื่อถือ ให้เราเป็นพาร์ทเนอร์นำทางธุรกิจของคุณสู่ยุคใหม่ของการค้นหา เริ่มต้นปรึกษาแผนกับเราได้แล้ววันนี้ รับคำปรึกษาฟรี!

คำถามที่พบบ่อย

GEO (Generative Engine Optimization) คือกระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ และเนื้อหา เพื่อเพิ่มโอกาสให้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เลือกนำข้อมูลของเราไปใช้สร้างเป็นคำตอบแบบสรุป ในเครื่องมือค้นหา เช่น Google AI Overviews หรือแชตบอตอย่าง Gemini

ไม่ใช่ ในทางตรงกันข้าม GEO ทำให้พื้นฐาน SEO แบบดั้งเดิมมีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม เพราะ AI ยังคงใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ติดอันดับสูง และมีความน่าเชื่อถือเป็นวัตถุดิบหลัก ดังนั้น GEO คือการต่อยอดจากพื้นฐาน SEO ที่แข็งแกร่ง

เริ่มจากการทำพื้นฐาน SEO ให้สมบูรณ์ เช่น Keyword Research, เขียนคอนเทนต์ตามหลัก E-E-A-T, ปรับ On-page/Off-page SEO และทำ Technical SEO ให้เว็บไซต์โหลดเร็ว และลดข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้

ใช้โครงสร้างเนื้อหาแบบ List, Table หรือ Q&A, เขียนสั้น กระชับ ตรงประเด็น และใส่ Schema Markup เพื่อบอก AI ว่าข้อมูลส่วนนั้นคืออะไร

Picture of Sudarat Boontod
Sudarat Boontod

บทความที่เกี่ยวข้อง